วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ชิสุ

{pic-alt} ลักษณะทั่วไป

ชิสุเป็นสุนัขที่แข็งแรง ร่าเริง กระตือรือร้น บรรพบุรุษเป็นสุนัขของชนชั้นสูงในจีน จึงมีลักษณะสง่างาม หัวเชิด หางโค้งงอมาถึงหลัง ถึงแม้จะมีขนาดแตกต่างกันแต่โดยทั่วไปชิสุจะต้องตัวเล็กกะทัดรัด กระนั้นก็ไม่ถึงกับบอบบาง ต้องมีสุขภาพดีและมีโครงสร้างที่ได้มาตรฐาน

{pic-alt} ความเป็นมา

ชิสุ ชื่อของสุนัขพันธุ์นี้มาจากภาษาจีน แปลว่า สุนัขสิงโตเป็นสุนัขในสามสายพันธุ์ชั้นสูง พวกเดียวกับปักกิ่งและปั๊ก เป็สุนัขที่หรูหราที่สุดจากจักรพรรดิจีน โดยกล่าวว่าพระทิเบตมอบสุนัขพันธุ์ชิสุให้จักรพรรดิจีนเป็นของกำนัล สุนัขพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักนอกอาณาจักรจีนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1903 เริ่มจากอังกฤษ ฝรั่งเศส ชิสุเป็นสุนัขตัวเล็กขนยาว เจ้าเสน่ห์มีหางไม่ยาวนักยกสูงขึ้นเหนือหลัง ขนที่หัวมักจะโดนรวบขึ้นแล้วผูกโบว์สีแดงดูสะดุดตามาก มีท่วงทำนองการเดินสูงศักดิ์แบบขุนนาง แต่ลักษณะการเห่าของชิสุจะมีความเป็นเฉพาะตัวอย่างมาก เนื่องจากส่วนใหญ่มันจะเห่าทักทายด้วยเสียงใหญ่ดังน่ากลัวมากตลอดเวลาจนกว่าเจ้าของจะปรามถ้าเป็นแบบทีคัพก็จะยังดังอยู่มากด้วย


{pic-alt}

วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ชิวาว่า

ชิวาว่า


เมื่อสมัยราวๆ ต้นศตวรรษที่ 19 เคยมีอาณาจักรชื่อ Toltecs(ในปัจจุบันเป็นประเทศเม็กซิโก) อาณาจักรนี้รุ่งเรืองอยู่นานนับ 100 ปี มีอารยธรรมและความเจริญต่าง ๆมากมาย หนึ่งในนั้นคือการสร้างสุนัขพันธุ์ Techichi โดยสุนัขจะมีขนาดเล็ก แต่กระดูกใหญ่ ขนยาว ลักษณะเด่นพิเศษคือเป็นสุนัขที่เงียบ ถือกันว่า Techichi เป็นสุนัขพื้นเมืองในแถบอเมริกากลาง และที่สำคัญคือ เป็นต้นกำเนิด ชิวาว่า ในปัจจุบันหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยืนยันว่า Techichi เป็นสุนัขตั้งแต่สมัย Toltecs คือรูปแกะสลักสุนัขบนหินเป็นรูปของสุนัขที่มีลักษณะใกล้เคียงกับชิวาวาในปัจจุบัน รูปแกะสลักนี้ปัจจุบันอยู่ที่ Monastery of Auejotzingo ตั้งอยู่ที่ประเทศเม็กซิโก
หลังจากอาณาจักร Toltecs ล่มสลายหายไป ก็ถึงคราวเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักร Aztec ซึ่งเกิดขึ้นในบริเวณเดียวกับ Toltecs จึงทำให้มีผู้ค้นพบเศษซากโบราณวัตถุอยู่เสมอ และมักจะเจอหลักฐานเก่าแก่เกี่ยวกับต้นตระกูลสายพันธุ์ของชิวาวาอยู่เสมอ ซึ่งเจอครั้งแรกในปี ค.ศ.1850 ที่โบราณสถานใกล้กับ Casas Grandes โดยเชื่อกันว่าที่แห่งนี้เคยเป็นวังของพระจักรพรรดิ Motezuma  ที่ 1 แห่ง "Aztec"
จึงทำให้มีเรื่องราวว่ากันว่า อาณาจักร Aztec ร่ำรวยมาก พระจักรพรรดิ Montezuma ทรงเลี้ยงชิวาวาไว้ในวัง จึงทำให้พวกชนชั้นสูงนิยมเลี้ยงกันมาก ในสมัยนั้นแม้แต่ชิวาว่าของเศรษฐียังเป็นที่ยกย่อง ส่วนตัวไหนที่มีสีน้ำเงินจะถือเป็นสุนัขศักดิ์สิทธิ์
นอกจากนี้นักโบราณมักจะพบเจอซากชิวาวาถูกฝังอยู่ในหลุมศพเดียวกับคนอยู่ทั่วไปในเม็กซิโก อยู่เป็นประจำ จึงทำให้เชื่อกันว่า ประเทศเม็กซิโก น่าจะเป็นประเทศต้นกำเนิด"สุนัขพันธุ์ ชิวาว่า

ปอม

ปอม


{pic-alt} ลักษณะทั่วไป

     สุนัขปอมเมอเรเนียนหรือเรียกสั้นๆ ว่า น้องปอมอยู่ในกลุ่ม Toy Group มีขนาดกระทัดรัด หลังสั้น ขนชั้นล่างอ่อนนุ่ม แน่นทึบ ขนชั้นนอก ยาว ฟู มีมาก ค่อนข้างหยาบ ตำแหน่งโคนหางสูง ขนหางแน่น เป็นพวง หางวางราบบนหลัง ปอมส่วนใหญ่ ท่าทางตื่นตัว ร่าเริง อยากรู้อยากเห็น แสดงความฉลาดให้เห็นได้เสมอ มีย่างก้าวที่คล่องแคล่ว สง่างาม และมั่นคง



{pic-alt} ความเป็นมา


     บรรพบุรุษของน้องปอมย้อนกลับไปถึงยุคก่อนคริสตกาล พบภาพวาดในแผ่นหินและรูปหล่อสัมฤทธิ์ตามโลงศพที่พบในอียิปต์ พบโครงกระดูกสุนัขพันธุ์เล็กคล้ายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน ในอุโมงค์ที่บรรจุศพสมัยโบราณของชาวอียิปต์

     เชื่อกันว่า ปอมเมอเรเนียนได้รับการพัฒนาให้เป็นน้องปอมในปัจจุบัน ครั้งแรกที่เมืองปอมเมอเรเนีย ประเทศเยอรมัน ตั้งอยู่ในยุโดรเหนือแถบทะเลบอลติก ดินแดนกว้างใหญ่จากตะวันตกของเกาะรูเกนถึงแม่น้ำวิทูลา ที่แห่งนี้มีการเลี้ยงสุนัขอย่างแพร่หลาย ทั้งเพื่อให้เป็นสัตว์และเพื่อให้เป็นสุนัขอารักขา ปอมเมอเรเนียนมีต้นกำเนิดจากพันธุ์สปิทซ์ในสมัยโบราณ บางคนเชื่อว่าสุนัขปอมเมอเรเนียนพัฒนาจากสุนัขพันธุ์ซามอยด์

     ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ที่ตอนเหนือของประเทศรัสเซียแถบไซบีเรีย บางคนเชื่อว่าพัฒนามาจากสุนัขป่า ซึ่งอาศัยอยู่ตามถ้ำในประเทศเยอรมัน และถูกนำมาใช้เป็นสุนัขเลี้ยงแกะในทวีปยุโรปตอนกลางและตอนล่าง นำมาพัฒนาในยุโรปเพื่อช่วยในการเลี้ยงแกะ ซึ่งบรรพบุรุษของปอมฯ น่าจะมีน้ำหนักมากถึง 30 ปอนด์ บางคนเชื่อว่าสุนัขปอมฯ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศกรีซ โดยอ้างหลักฐานจากภาพวาดสมัยโบราณหลายภาพที่มีอายุ 400 ปีก่อนคริสตกาล หรือเกือบประมาณ 2500 ปีมาแล้ว มีภาพของสุนัขขนาดเล็กที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนสุนัขปอมฯ ในปัจจุบัน คือ Stop ที่เด่นชัด ช่วงปากแหลม หูสั้น ลักษณะการเดินและการแสดงออกเหมือนกับที่พบได้ในปัจจุบันทุกประการ ยกเว้นแต่ตำแหน่งของหางที่อยู่ต่ำเกินไปเท่านั้น

     แสดงว่าสุนัขพันธุ์ปอมนี้มีขนาดเล็กมากตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ไม่ใช่เพิ่งพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงเมื่อ 40-50 ปีที่ผ่านมาตามที่มีคนในประเทศอังกฤษอ้างเสมอ ประมาณปี 1800 สมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย ทรงมีความชื่นชอบในสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนและส่งสุนัขของพระองค์ลงประกวด ทำให้เกิดความนิยมปอมเมอเรเนียนอย่างแพร่หลายในประเทศอังกฤษ และเพราะความที่พระองค์โปรดปรานสุนัขที่มีขนาดเล็ก

     ผู้เพาะพันธุ์หลายคนเริ่มที่จะคัดสุนัขที่มีขนาดเล็ก ปัจจุบันปอมฯ ที่เราเห็นอยู่มีขนาดที่เล็กลงจากปอมฯ ที่เป็นต้นตำรับ 4-5 ปอนด์ ความฉลาดและความสามารถของปอมฯ ทำให้สุนัขพันธุ์นี้เป็นพระเอกในคณะละครสัตว์อย่างต่อเนื่อง ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเยอรมัน นิยมเลี้ยงกันเป็นฝูง บางแห่งทำเป็นสุนัขลากเลื่อนก็มี ปอมฯ เข้าสู่อังกฤษช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 และได้รับความนิยมอย่างสูง เช่น มีการตั้งชมรมคือ English Pomeranian Club ในปี 1891 ภายหลังสมเด็จพระราชินีวิคตอเรียทรงออกงานพร้อมสุนัขพันธุ์นี้บ่อยครั้ง ทำให้สุนัขพันธุ์นี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว

ประวัติส่วนตัว

นางสาว ณัฐธิดา ชาวลาว ม.3/2 เลขที่ 10
บ้าน 629/2 ม.1 ต.วังกระเเจะ อ.เมือง จ.ตราด 23000
โรงเรียนตราดสรรเสริญวิทยาคม